วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

SF.DANGER - DOBAEK PART 1



















            ตึก ตึก... ตึก ตึก






            อาการแบบนี้มันคืออะไรกัน... บยอน แบคฮยอน คนนี้ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆ ก็เกิดอาการใจเต้นรัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ตอนเช้าก็ทานอาหารที่นานๆ ทีพี่เมเนเจอร์จะซื้อมาให้ ซึ่งเขาก็ซัดเสียเรียบจนโดนจุนมยอนฮยองเอ็ดเป็นว่าเล่นว่าทำไมไม่รักษาหุ่น ฮยองนะฮยอง นานๆ จะได้ทานของดีก็ยังจะมาบ่นอีก...

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นนะ! (แถมรู้สึกว่าจะไม่เกี่ยว) เพราะเมื่อสิบนาทีที่แล้วเขาดันใจเต้นให้เจ้าเมนโวคอลอีกคนของวงอีกคนน่ะสิ! จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่ามันนึกบ้าอะไรมาเอ่ยชมเขา ทั้งๆ ที่ปกติมันเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจใครอยู่แล้ว แล้วที่จะหวังให้มันชมน่ะ เหอะ! ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก!

แต่ไหงไอ้ประโยคที่ออกมาจากปากหนาๆ นั่นที่ว่า... วันนี้ฮยอง...น่ารักจังกลับทำให้ทั้งหน้าเขาร้อนผ่าว ใจเต้นตึกตึกตักตัก รู้สึกเก้อเขินจนต้องยกมือมาเกาท้ายทอยเล่นอย่างอายๆ แล้วดันเมมโมรี่ภาพเหตุการณ์เก็บมาเพ้อเป็นตุเป็นตะราวกับสาววัยแรกรุ่นที่เตรียมพร้อมจะโบยบินไปกับความเพ้อฝันที่ว่า รักแรกของฉันอยู่ ณ แห่งหนใด
                

 ...จะบ้าเรอะ!


นี่มันความจริงของเด็กหนุ่มวัยยี่สิบสองขวบที่รู้สึกเหมือนกำลังตกหลุมพราง หรือกับดักห่าเหวอะไรก็แล้วแต่เพราะไอ้ดวงตากลมโตใสแป๋วของเจ้าตัวปัญหาที่ดูไร้เดียงสา แต่กลับแฝงไปด้วยความซุกซนอันน่าประหลาดนั่นนะเว้ย... ให้ตายสิ เขาล่ะไม่ชอบไอ้อาการอย่างนี้เลยจริงๆ


ทำท่าประหลาดอะไรของแกวะ


เสียงทุ้มใหญ่ของเพื่อนสนิทตัวดีดังขึ้นพร้อมกับเสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก เหล่าเมมเบอร์กำลังทยอยเข้ามาหลังจากออกไปซ้อมบนเวที ในขณะที่เขานั่งทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่งอยู่ อืม...บางครั้งก็อยากให้พี่เมเนเจอร์พาไปปรึกษาจิตแพทย์บ้าง...
                             

เรื่องของฉันน่า...


บอกปัดๆ ไปแล้วหันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่ พลางสลัดภาพรอยยิ้มสดใสของคนตาโตที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพี่ใหญ่ของวงออกไป...ไม่ได้ตั้งใจจะมองนะ แค่เหลือบไปเห็น...

มือสวยที่ได้มาจากแม่ตั้งใจจัดทรงผมให้เข้าที่ พลันสายตาไม่รักดีดันไปสบกับตาโตของใครอีกคนที่ยืนมองอยู่ก่อนแล้ว มือหยุดชะงักทันทีเมื่อรับรู้ถึงความหมายในแววตาที่แปลกไป... แววตานั่นดูไม่ไร้เดียงสาเหมือนเก่า มันเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ และขี้เล่นจนเขาแทบไม่เชื่อว่านี่คือคนที่เขาชอบล้อเลียนว่า ไอ้ไก่อ่อน


            ...

            คนตัวเล็กในชุดสีแดงสลับดำสาวเท้าเข้ามาใกล้เข้าอย่างใจเย็น ทำไมกัน... ทั้งๆ ที่อยู่ไม่ไกลกันแท้ๆ แต่เขากำลังรู้สึกว่าแต่ละก้าวของอีกคนมันเรียกความตื้นเต้น และความวิตกกังวลจากเขาได้มากเหลือเกิน... มือนุ่มเลื่อนมากดทับที่หัวไหล่เบาๆ แต่ทำเอาเขาถึงกับสะดุ้ง คล้ายมีไฟฟ้าสถิตเมื่อนิ้วเล็กๆ นั่นไล้ขึ้นมาตามลำคอผ่านสาปเสื้อมายังแก้มอวบของเขา เจ้าตัวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพ่นกระซิบข้างหูให้ขนลุกเล่น และแล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากคล้ายสนุกเสียเต็มประดา
                                 

...พร้อมๆ กับใบหน้าของเขาที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ












           
            ...ตอนนี้ฮยองน่ารักมากเลยนะ รู้ตัวมั้ย?                       












            ตึก ตึก... ตึก ตึก...




















            มีคนเขาว่ากันว่าคนที่ขี้อายที่สุดมักจะเป็นคนที่หื่นที่สุด... เขาเพิ่งมาบรรลุก็ตอนนี้เอง ที่เอาแต่ยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งให้อีกคนเร้าโรมอย่างเมามันส์ ได้ข่าวว่าเขารุก? ...เอาเถอะนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นหลักๆ คือเขามาอยู่ที่นี่ ในห้องน้ำแคบๆ ห้องนี้ได้ยังไง?

            อืม... โอเค ก่อนอื่นเราจะย้อนกลับไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว หลังจากที่พวกเราทั้งสิบสองคนอัดเทปการแสดงอือรือรองเสร็จ ผลประกาศเป็นอันว่าพวกเราชนะ เพลงอือรือรองได้ที่หนึ่งเป็นครั้งที่เก้า พวกเราก้าวขอบคุณท่านประธานลี ซูมาน รวมถึงทีมงาน พ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้องที่บริษัท และแฟนคลับทุกๆ คนที่คอยอยู่ข้างๆ และสนับสนุนพวกเราทั้งสิบสองคนอยู่เสมอ...

            อ่า พอแสดงปิดท้ายรายการเสร็จเรียบร้อยก็พากันบอกลาแฟนคลับ แล้วกลับเข้าไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนชุด ระหว่างทางก็พบคนนู้นคนนี้เลยขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักของพวกเขาไปด้วยรอยยิ้ม ทุกอย่างเกือบจะเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นมากที่สุดคือการกลับไปซ้อมต่อที่บริษัท... แต่ทว่าดันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น เจ้าเมนโวคอลตัวปัญหาจู่ๆ ก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นระหว่างทางที่จะออกไปยังโรงจอดรถ พี่เมเนเจอร์รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่เขา และเมมเบอร์คนอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่อย่างลู่หาน ชานยอล และจุนมยอนฮยองก็ทำเช่นเดียวกัน อย่าสงสัยว่าเมมเบอร์ที่เหลือไปไหน คำตอบคือขึ้นรถไปกันก่อนแล้วล่ะ...


            คยองซูเป็นอะไรมากมั้ย!

            “ฮยอง...ผม..ผมปวดท้อง...


            มือเล็กกุมท้องแน่น ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดที่ดูก็รู้ว่ามีไม่น้อย เสียงสั่นๆ เอ่ยแผ่วเบาทำเอาพี่เมเนเจอร์หน้าเริ่มเสีย เมมเบอร์คนอื่นๆ เข้าไปประตอง และไถ่ถามอาการด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่เขายืนขมวดคิ้วมองอีกคนด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในใจ... ทั้งกังวล ทั้งเป็นห่วง


            ไปหาหมอมั้ย?จุนมยอนฮยองถาม

            ผมอยากเข้าห้องน้ำ...

            ตากลมโตสบเข้ากับเขาพอดีเมื่อจบประโยค ผงะไปเล็กน้อยด้วยความที่ยังไม่ได้ตั้งตัว พลันสายตาของทุกคนพร้อมใจกันมองมาคล้ายกับจะรอดูว่าเมื่อไหร่เขาจะพาเจ้าเด็กนี่ไปเข้าห้องน้ำอย่างที่เจ้าตัวอ้อนวอนผ่านทางสายตา


            ถ้าไม่พาไป... เดี๋ยวก็หาว่าเขาใจร้ายอีก
           






            “เดินไหวรึเปล่า...ลุกขึ้นสิ ฮยองจะพาไป
                                                                       

















            แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาอาจจะคิดผิดก็ได้ที่ทำอย่างนั้น... ทันใดนั้นรอยยิ้มเล็กๆ ของคนเจ้าเล่ห์ถูกจุดขึ้นมาที่มุมปากโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น...
           










            ...ก็อย่างที่เขาเท้าความให้ฟังเมื่อกี้นั่นแหละ พอพาคนตัวเล็กกว่ามาถึงห้อง อีกคนก็รีบเร่งเอาป้ายสีเหลืองที่มีอักษรว่า ทำความสะอาด ไว้หน้าห้องน้ำก่อนจะปิดล็อคกลอนแล้วหันมายิ้มให้เขาที่ยืนงงอยู่กับการกระทำเหล่านั้นก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเมื่ออีกฝ่ายพุ่งพรวดเข้ามาหาด้วยความรวดเร็ว สองแขนเล็กทว่าแรงกลับมหาศาลตึงแขนเขาไว้กับผนังกำแพง นัยน์ตาสีเข้มทอประกายแปลกประหลาดจ้องลึกเข้ามายังนัยน์ตาของเขา ความรู้สึกแปลกๆ ค่อยๆ เกิดขึ้นทีละนิดโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว...


            ค..คยองซู นายคิดจะทำอะไร
                                                                                               

            โว้ย...ทำไมเสียงต้องสั่นด้วยวะ! ไอ้ตาโตหัวเราะในลำคอเบาๆ ลิ้นแดงๆ ของมันแลบออกมาเลียริมฝีปากอ้อยอิ่ง พลางสายตาของมันก็สบกับเขาโดยไม่ละไป ทำไมต้องส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้ด้วยเนี่ย... ให้ตายสิ!


            ผมรู้ว่าฮยองรู้ว่าผมจะทำอะไร...

            ...  เขาได้แต่เงียบ ไม่ปฏิเสธหรอกว่าไม่รู้ว่าต่อไปมันจะทำอะไร โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่รู้สิก็แปลก!


            ผมน่ะ...ต้องอดทนมากแค่ไหนที่จะไม่เข้าไปกอดฮยองน่ะ รู้มั้ย?

            ฉันจะไปรู้กับนายเหรอ...


            หน้าของเขาร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย แต่ด้วยความไม่ยอมใคร ใบหน้าเรียวจึงเชิดขึ้น ริมฝีปากบางเบะด้วยความหมั่นไส้กับใบหน้าออดอ้อนนั่น ในขณะที่ริมฝีปากหนาของอีกคนกระตุกยิ้มอย่างนึกสนุก





            งั้นฮยองเตรียมรับความอดทนของผมไปให้หมดเลยนะครับ...

            “หมายความว่ายัง...อื้อ


           




           





            ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบลงบนริมฝีปากบางอย่างรุนแรง ความอดทนที่มีเวลาอยู่ท่ามกลางคนอื่นๆ กำลังถูกปลดปล่อยออกไปทีละเล็กน้อย เรียวลิ้นชื้นเริ่มต้นละเลียดเลียริมฝีปากอีกคนจากเบาๆ ก่อนค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ มือเล็กกุมข้อมือคนหน้าหวานตึงไว้กับผนังแน่นเมื่อคนตัวบางพยายามดิ้นหนี


            อื้อ..อึก


            นัยน์ตาหวานเบิกกว้าง เมื่อคนที่ตั้งหน้าตั้งตาจูบเขาอยู่แทรกขาเข้ามาระหว่างขาของเขา ต้นขาของอีกฝ่ายยกขึ้นดุนดันส่วนอ่อนไหวผ่านกางเกงผ้ายีนส์  ในขณะที่ริมฝีปากยังคงบดเบียด และยัดเยียดลิ้นร้อนให้เขาอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกวาบหวามเริ่มเกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย อ่า...เขากำลังหัวหมุน รู้สึกราวกับโดนมนต์สะกด..


            อ้า..อื้ม


            คยองซูใช้มืออีกข้างเลิกเสื้อยืดของอีกคนขึ้นเผยให้เห็นผิวน้ำนมราวกับผิวเด็กของคนหน้าหวาน นิ้วเล็กๆ นั่นเขี่ยเล่นบนยอดอกสีระเรื่อของอีกฝ่ายด้วยความอยากแกล้ง เป็นผลส่งให้ร่างบางเผลออ้าปากคราง เขาจึงใช้จังหวะนี้สอดเรียวลิ้นเข้าไปลิ้มรสความหวานในโพรงปากของอีกคนอย่างไม่รู้จักเบื่อ แบคฮยอนปรือตามองดวงตากลมโตที่จ้องอยู่ก่อนแล้วอย่างเหนื่อยใจ ไหนๆ เขาก็แพ้เจ้าเด็กนี่แล้ว... ก็ให้มันทำตามใจชอบไปเลยก็แล้วกัน


            คยองซูผงะเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากข้อมือบาง เลื่อนตำแหน่งไปยังเอวเล็กๆ เมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีโอนอ่อนให้เขามากกว่าเดิม ร่างกายทั้งสองเบียดชิดกันจนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมผ่าน เรียวลิ้นร้อนไล่ไปตามซี่ฟันแต่ละซี่ เก็บเกี่ยวความหอมหวานจากอีกคนอย่างไม่รู้จักพอ แขนเรียวคล้องเข้าที่คอของอีกฝ่าย แบคฮยอนหันหน้าเอียงปรับองศาการจูบตาม ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามันส์ก่อนจะผละออกในเวลาต่อมา


            ฮยอง...

            “อ...อะไรเล่า

            “ผม...ขอนะ

            แบคฮยอนไม่ตอบอะไร แต่กลับดึงอีกคนเข้ามาประกบจูบอีกครั้ง โดยตัวเองเป็นฝ่ายคุมเกมส์ มือเรียวสวยคล้ายผู้หญิงเลื่อนลงไปปลดเข็มขัดของอีกคนออก โดยที่คยองซูก็ให้ความร่วมมือช่วยปลดซิปกางเกงแบคฮยอนออกอย่างรู้งาน น้ำสีใสไหลเลอะตามมุมปากเมื่อผละออกมาอีกครั้ง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผมเผ้าเริ่มยุ่งเหยิงไปหมด เสื้อยืดสีเหลืองที่ถูกเลิ่กขึ้นทำให้เห็นยอดอดชูชันนั่นอย่างชัดเจน ไม่รอช้าคยองซูตรงเข้าไปหยอกล้อกับยอดอกเล็กๆ นั่น ทั้งขบ ทั้งเม้มจนแบคฮยอนอดครางออกมาไม่ได้


            อ้า..อ่า..ฝ่ามือนุ่มแทรกผ่านกลุ่มผมสีแดงของคยองซูเพื่อระบายความเสียวซ่าน แท่งเนื้ออุ่นใต้กางเกงชั้นในเริ่มสั่นระริกด้วยความต้องการอย่างถึงที่สุด คยองซูไล่ลิ้นเลียเนื้อนุ่มไปเรื่อยๆ ไล้วนรอบหน้าท้องเนียนเรียบ ก่อนจะค่อยๆ เอาแก่นกายของแบคฮยอนออกมา แบคฮยอนปิดหน้าแดงๆ ของตัวเองเมื่อเห็นสายตาร้อนแรงที่อีกฝ่ายส่งมาให้ คยองซูกระตุกยิ้ม เรียวลิ้นร้อนละเลียดส่วนปลายที่ปริ่มน้ำใสๆ เบาๆ แบคฮยอนสะดุ้งเฮือกด้วยความไม่คุ้นชิน นัยน์ตาสวยปรือมองริมฝีปากหนาที่ทั้งเลีย ทั้งดูด ทั้งขบส่วนปลายเขาด้วยความเขินอาย คยองซู...เป็นคนที่อันตรายจริงๆ


            อ้า..ฮึก..อื้อ  นิ้วเรียวจิกเข้ากับผนังเมื่อโพรงปากอุ่นๆ ของคยองซูเร่งเร้าส่วนอ่อนไหวของเขา ในขณะที่มือนั้นก็ยังรูดรั้งแท่งเนื้อให้เขาไปด้วย ใบหน้าหวานเหยเกเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะปลดปล่อย ความรู้สึกราวกับว่ากำลังจะบินไปบนอากาศ ราวกับสวรรค์ และท้องฟ้าอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม...


            ค..คยองซู...อื้อ..เร็วหน่อย


            นึกอยากตบตัวเองให้เลือดกลบปากเป็นครั้งแรก เสียงหวานกระเส่าร้องขอให้อีกคนเร่งทำร้ายร่างกายตัวเอง ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของตัวเองอย่างนี้... นี่เขาบ้าไปแล้วใช่มั้ย? ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วความสุขสมที่คยองซูกำลังมอบให้เขามันช่างรู้สึกดีมากจริงๆ ทั้งที่เคยผ่านปากผู้หญิงมาบ้างไม่มากนัก แต่บอกได้เลยว่าไม่มีใครทำได้เก่งเท่าคยองซูเลยสักคน...


            อึก...ฮ้า


            ไม่นานนัก น้ำสีขุ่นขาวถูกปลดปล่อยออกมาเต็มโพรงปากของคยองซู เขากลืนมันลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ แบคฮยอนหน้าซีดที่เห็นอีกคนทำแบบนั้น สิ่งสกปรกของตัวเองใครอยากจะให้คนอื่นทำอย่างนั้นกันเล่า! คนบ้า! แบคฮยอนขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะพลักคยองซูที่กำลังเช็ดปากตัวเองอยู่ให้นั่งลงทับฝาชักโครก คนตาโตแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาเขา พลางมือเรียวล้วงเข้าไปภายในกางเกงสีดำสนิท แท่งเนื้อร้อนพองคับมือบาง แบคฮยอนแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งผากของตัวเองอย่างไม่มั่นใจก่อนเริ่มต้นไล้ลิ้นเลียแท่งเอ็นนั้นเรื่อยๆ ฟันซี่เล็กขบส่วนปลายหัวแรงๆ หวังแกล้งเจ้าตัวแสบที่เขาเสียท่า จนเจ้าตัวร้องโอยออกมา


            “นี่ฮยองกะจะให้มันขาดเลยรึไง!?”  คยองซูขมวดคิ้วโวย


            แบคฮยอนไม่ตอบ แต่กลับยิ้มกรุ่มกริ่มในใจ คยองซูถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้คนหน้าหวานจัดการแท่งเนื้อของตัวเองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตอนนี้... เขาเริ่มที่จะทนไม่ไหว.... “อ้ะ..” แบคฮยอนสะดุ้งเมื่อถูกจับพลิกมาคลุกเข่า แล้วหันหน้านอนราบเข้ากับฝาชักโครก คนตาโตลงมือกับเนื้อนิ่มๆ เสียงดัง เพี๊ยะ พลางหัวเราะในลำคอเมื่อถูกค้อนจากสายตาของอีกคน


            “ฮยองรู้อะไรมั้ย...”

            “ร..รู้อะไรล่ะวะ!


            แบคฮยอนย้อนเสียงสั่น คยองซูไม่ตอบพลางจับแท่งร้อนๆ ของตัวเองจ่ออยู่ที่ช่องสีสวยของแบคฮยอน แล้วค่อยๆ ยัดส่วนหัวเข้าไป แบคฮยอนเชิดหน้าขึ้นด้วยความเจ็บ น้ำสีใสล่วงหล่นตามโครงหน้าหวาน สัมผัสแปลกๆ และการไม่เบิกทางก่อนของคยองซูทำให้เขารู้สึกทรมาน มันทั้งเจ็บ ทั้งแสบ ราวกับว่ามันกำลังจะฉีกขาด...


            “ฮึก..อ้า!


            คยองซูไม่ปล่อยให้แบคฮยอนได้หายเจ็บ หรือแม้แต่ทำความคุ้นชิน แท่งเอ็นถูกส่งย้ำแรงเข้าไปภายในทีเดียว เพราะความปรารถนา จนกระทั่งเลือดสีแดงซึมผ่านช่องทางนั้นออกมาจึงทำให้คยองซูได้สติ ริมฝีปากหนาพรมจูบไปทั่วหลังขาวเนียน ไล้ขึ้นไปที่ไหล่บาง และลำคอระหงค์ ก่อนจะหยุดอยู่ที่พวงแก้มสีแดงระเรื่อ


            “ผมขอโทษ...”

            “ฮือ..”


            แบคฮยอนหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลเปรอะเปื้อนใบหน้า ก่อนต้องนิ่วหน้าเมื่อแก่นก่ายใหญ่คับพองที่อยู่ในตัวของเขาเริ่มขยับเป้นจังหวะเนิบนาบ คยองซูขมวดคิ้ว เพราะขยับแก่นกายได้ยากลำบากเนื่องจากช่องทางที่คับแน่น จากสัมผัสแผ่วเบา ก่อเกิดเป็นสัมผัสร้อนแรงที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน


            “อ้า..อื้อ..อ้ะ..อ้ะ..อ้า”

            “อืม..”


            จากความเจ็บปวดเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นความวาบหวามชวนให้หลงใหล ริมฝีปากเรียวถูกบดขยี้ซ้ำๆ อย่างไม่รู้เบื่อ เช่นเดียวกับตุ่มไตชูชันที่ถูกทั้งขบ ทั้งเลียโดยเด็กเอาแต่ใจบนร่างของเขา ผิวขาวใสถูกแต่งแต้มไปด้วยสีกุหลาบชวนให้น่ามองอย่างแปลกประหลาด...


            “อ้ะ..อ้ะ..อ้ะ..อ้า..คยอง..อ้ะ”


            ไม่ไหวแล้ว...ร่างกายของแบคฮยอนกำลังทำให้คยองซูคลั่งแทบบ้า! ทั้งยังตอดรัดแท่งร้อนๆ ของเขาแน่นจนแทบจะปล่อยออกมา แต่กายหอมหวายยั่วยวนชวนให้เขาต้องอดกลั้นความต้องการไว้เพื่อตักตวงความหวานละมุนจากร่างตรงหน้านี่เสียก่อน


            “แบคฮยอน...”

            “ฮือ...อื้อ..”


            ครางอื้ออึงในลำคอพลางปรือตาช้อนขึ้นมองคนข้างบนอย่างย่ามใจ คยองซูลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงคออย่างยากลำบาก นี่เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวเลยสินะว่าท่าทางเมื่อกี้มันยั่วอารมณ์กามเขามากแค่ไหน!?

            แต่แล้วจู่ๆ ความคิดหนึ่งแล่นเข้าในสมอง คนตาโตตั้งสติก่อนจะเอ่ยถามคำถามหนึ่งออกไป...ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมที่กำลังกระทำอยู่ชะงักไปด้วยเช่นกัน


            “ที่ฮยองยอมผมง่ายๆ แบบนี้น่ะ...”

            “...”

            “เพราะอะไร...”

            “...” แบคฮยอนเงียบ และหลุบตาลงต่ำ ใบหน้านวลขาวร้อนผะผ่าว เหงื่อมากมายไหล่ชุ่มไปทั่วทั้งร่างกายของคนทั้งคู่ คยองซูยังคงจ้องอีกฝ่ายนิ่งไม่ละไปไหน


            “ทั้งๆ ที่ฮยองจะผลักไสผมก็ได้ แต่ทำไมล่ะ...ทำไมฮยองไม่ทำ!

            “...” แบคฮยอนกัดริมฝีปากครุ่นคิดอย่างหนัก แต่มันทำให้คยองซูเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิดให้กับเขาที่หยุดบทรักไปเสียดื้อๆ


            “แค่ประโยคเดียวฮยอง...ประโยคเดียวที่ผมต้องการคำตอบจากฮยอง”

            “...ชอบ” เสียงแหบพร่าดังแผ่ว ทำให้คยองซูไม่ได้ยิน

            “ฮยองพูดว่าอะไรนะ” ถามย้ำอีกรอบ

            “ก็บอกว่าชอบไง! อ้ะ!

            จบประโยคจากร่างใต้อาณัติ คยองซูกระแทกกระทั้นช่องทางรักแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแรงอารมณ์พร้อมๆ กับหัวใจผองโตจนมันรู้สึกคับอกอย่างน่าประหลาด...แต่ถึงอย่างนั้น ร่างกายเขาก็ยังคงทำตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง แท่งร้อนๆ ของคนตัวเล็กกว่าผลุบเข้าผลุบออกรวดเร็วในตัวของอีกคนจนแทบมองไม่ทัน

            สัมผัสที่แนบชิดยิ่งกว่าเดิม และความรู้สึกโล่งใจที่ได้สารภาพถูกปลดปล่อยออกไปแล้วแทบจะทำให้แบคฮยอนสำลักความเสียวซ่านที่คยองซูมอบให้เขา แบคฮยอนแอ่นสะโพกขึ้นรับสัมผัสก่อนตวัดขารอบเอวอีกคน เพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว คยองซูเกี่ยวขาอีกข้างของแบคฮยอนขึ้นพาดบ่าแล้วกดแท่งร้อนนั่นลงไปลึกจนสุด ก่อนจะซอยถี่ไม่มียั้ง


            “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า”

            “อือ..”


            เสียงครางหวานหูดังขึ้นเป็นจังหวะไพเราะดังอย่างต่อเนื่อง เมื่อความเร็วในการฝั่งแท่งแข็งขืนนั่นเข้ามากดลึกโดนจุดกระสันเข้าอย่างจัง แบคฮยอนบิดเร่าส่ายหน้าไปมาเป็นสัญญาณเตือนให้คยองซูรู้ได้ว่าพี่ชายหน้าหวานของเขาใกล้ถึงฝั่งฝันแล้ว ก็ยิ่งรีบซอยถี่ๆ เข้าช่องทางคับแน่นนั้นยิ่งขึ้นไปอีก


            “ผมน่ะ..อา..รักฮยองนะ..อึก”


            เสียงทุ้มนุ่มติดหอบหน่อยๆ เอ่ยขึ้นข้างกกหูในขณะที่ส่วนล่างยังทำงานได้ดีไม่มีตก แบคฮยอนปรือตาขึ้นมองเด็กอายุน้อยกว่าแล้วแย้มยิ้มบางเบา “รักเหมือนกัน...”


            “แบคอยอน...”

            “อ๊ะ คยองซู...อื้ม!

            ริมฝีปากเรียวถูกบดขยี้อีกครั้งแต่หากครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกใหม่ๆ ที่ทำให้รสจูบในครั้งนี้หอมหวานละมุนปากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ คยองซูถอนริมฝีปากออกมา มือหนาจับขาเรียวแยกออกกว้างพลางกระแทกแก่นกายเข้าไปไม่ยั้ง ไม่มีออมแรง หรือแม้แต่ลดความเร็วในการขยับ อีกนิดเดียวเท่านั้นที่ทุกสิ่งที่เขาอดทนมาจะได้รับการปลดปล่อยไปยังคนด้านล่าง

            แบคฮยอนเชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน ความเร่าร้อนจากเซ็กส์ที่คยองซูมอบให้ ทำเอาเขาสำลักความสุขสมออกมาจนแทบจะ...ล้นปรี่


            “อ๊ะ คยองซู อ๊ะ ม..ฮือ..ไม่ไหว...อ๊า”

            “อึก...”


            ร่างทั้งสองกระตุกเกร็งพร้อมกัน แบคฮยอนกระตุกเกร็งปล่อยธารน้ำสีขาวขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนไปทั้งหน้าท้องของคยองซู ในขณะที่อีกฝ่ายก็ปลดปล่อยความอดทนที่มีทั้งหมดเอาไว้ภายในตัวของแบคฮยอน...ความสุขสมและความโล่งสบายบริเวณท้องน้อยเกิดขึ้นอีกครั้ง

            เสียงหอบใจหายใจดังระงมขึ้นอย่างแผ่วเบา สองสายตาเผลอสบกันโดยบังเอิญก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่ริมฝีปากอีกครั้ง ผิวชื้นแฉะด้วยเหงื่อถูกลิ้นร้อนๆ ไล่เลีย ริมฝีปากขบเม้มรอยกุหลาบไว้ทั่วทุกตารางนิ้ว ในขณะเดียวกันแก่นกายอีกคนที่ยังคงคาอยู่ในช่องทางรักก็เริ่มคับพองขึ้นอีกครั้ง...เป็นสัญญาณบอกแบคฮยอนได้อย่างดีเลยว่า...


            บทรักของพวกเขา นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น...















อย่าลืมกลับไปเม้นท์ที่บทความนะฮับ  . .)