ตึก ตึก... ตึก ตึก…
อาการแบบนี้มันคืออะไรกัน... บยอน
แบคฮยอน คนนี้ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆ
ก็เกิดอาการใจเต้นรัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ตอนเช้าก็ทานอาหารที่นานๆ
ทีพี่เมเนเจอร์จะซื้อมาให้
ซึ่งเขาก็ซัดเสียเรียบจนโดนจุนมยอนฮยองเอ็ดเป็นว่าเล่นว่าทำไมไม่รักษาหุ่น
ฮยองนะฮยอง นานๆ จะได้ทานของดีก็ยังจะมาบ่นอีก...
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นนะ!
(แถมรู้สึกว่าจะไม่เกี่ยว) เพราะเมื่อสิบนาทีที่แล้วเขาดันใจเต้นให้เจ้าเมนโวคอลอีกคนของวงอีกคนน่ะสิ!
จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่ามันนึกบ้าอะไรมาเอ่ยชมเขา ทั้งๆ
ที่ปกติมันเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจใครอยู่แล้ว แล้วที่จะหวังให้มันชมน่ะ เหอะ!
ยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก!
แต่ไหงไอ้ประโยคที่ออกมาจากปากหนาๆ
นั่นที่ว่า... ‘วันนี้ฮยอง...น่ารักจัง’ กลับทำให้ทั้งหน้าเขาร้อนผ่าว
ใจเต้นตึกตึกตักตัก รู้สึกเก้อเขินจนต้องยกมือมาเกาท้ายทอยเล่นอย่างอายๆ แล้วดันเมมโมรี่ภาพเหตุการณ์เก็บมาเพ้อเป็นตุเป็นตะราวกับสาววัยแรกรุ่นที่เตรียมพร้อมจะโบยบินไปกับความเพ้อฝันที่ว่า
‘รักแรกของฉันอยู่ ณ แห่งหนใด’
...จะบ้าเรอะ!
นี่มันความจริงของเด็กหนุ่มวัยยี่สิบสองขวบที่รู้สึกเหมือนกำลังตกหลุมพราง
หรือกับดักห่าเหวอะไรก็แล้วแต่เพราะไอ้ดวงตากลมโตใสแป๋วของเจ้าตัวปัญหาที่ดูไร้เดียงสา
แต่กลับแฝงไปด้วยความซุกซนอันน่าประหลาดนั่นนะเว้ย... ให้ตายสิ
เขาล่ะไม่ชอบไอ้อาการอย่างนี้เลยจริงๆ
“ทำท่าประหลาดอะไรของแกวะ”
เสียงทุ้มใหญ่ของเพื่อนสนิทตัวดีดังขึ้นพร้อมกับเสียงประตูห้องแต่งตัวเปิดออก
เหล่าเมมเบอร์กำลังทยอยเข้ามาหลังจากออกไปซ้อมบนเวที ในขณะที่เขานั่งทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่งอยู่
อืม...บางครั้งก็อยากให้พี่เมเนเจอร์พาไปปรึกษาจิตแพทย์บ้าง...
“เรื่องของฉันน่า...”
บอกปัดๆ
ไปแล้วหันหน้าเข้าหากระจกบานใหญ่
พลางสลัดภาพรอยยิ้มสดใสของคนตาโตที่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพี่ใหญ่ของวงออกไป...ไม่ได้ตั้งใจจะมองนะ
แค่เหลือบไปเห็น...
มือสวยที่ได้มาจากแม่ตั้งใจจัดทรงผมให้เข้าที่
พลันสายตาไม่รักดีดันไปสบกับตาโตของใครอีกคนที่ยืนมองอยู่ก่อนแล้ว
มือหยุดชะงักทันทีเมื่อรับรู้ถึงความหมายในแววตาที่แปลกไป...
แววตานั่นดูไม่ไร้เดียงสาเหมือนเก่า มันเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
และขี้เล่นจนเขาแทบไม่เชื่อว่านี่คือคนที่เขาชอบล้อเลียนว่า ‘ไอ้ไก่อ่อน’
“...”
คนตัวเล็กในชุดสีแดงสลับดำสาวเท้าเข้ามาใกล้เข้าอย่างใจเย็น
ทำไมกัน... ทั้งๆ ที่อยู่ไม่ไกลกันแท้ๆ แต่เขากำลังรู้สึกว่าแต่ละก้าวของอีกคนมันเรียกความตื้นเต้น
และความวิตกกังวลจากเขาได้มากเหลือเกิน... มือนุ่มเลื่อนมากดทับที่หัวไหล่เบาๆ
แต่ทำเอาเขาถึงกับสะดุ้ง คล้ายมีไฟฟ้าสถิตเมื่อนิ้วเล็กๆ
นั่นไล้ขึ้นมาตามลำคอผ่านสาปเสื้อมายังแก้มอวบของเขา เจ้าตัวหัวเราะเบาๆ
ก่อนจะพ่นกระซิบข้างหูให้ขนลุกเล่น และแล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากคล้ายสนุกเสียเต็มประดา
...พร้อมๆ กับใบหน้าของเขาที่เริ่มร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ
“...ตอนนี้ฮยองน่ารักมากเลยนะ
รู้ตัวมั้ย?”
ตึก ตึก... ตึก ตึก...
มีคนเขาว่ากันว่าคนที่ขี้อายที่สุดมักจะเป็นคนที่หื่นที่สุด...
เขาเพิ่งมาบรรลุก็ตอนนี้เอง ที่เอาแต่ยืนนิ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งให้อีกคนเร้าโรมอย่างเมามันส์
ได้ข่าวว่าเขารุก? ...เอาเถอะนั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นหลักๆ
คือเขามาอยู่ที่นี่ ในห้องน้ำแคบๆ ห้องนี้ได้ยังไง?
อืม...
โอเค ก่อนอื่นเราจะย้อนกลับไปเมื่อสามชั่วโมงที่แล้ว หลังจากที่พวกเราทั้งสิบสองคนอัดเทปการแสดงอือรือรองเสร็จ
ผลประกาศเป็นอันว่าพวกเราชนะ เพลงอือรือรองได้ที่หนึ่งเป็นครั้งที่เก้า
พวกเราก้าวขอบคุณท่านประธานลี ซูมาน รวมถึงทีมงาน พ่อแม่ ครอบครัว เพื่อนๆ
รุ่นพี่รุ่นน้องที่บริษัท และแฟนคลับทุกๆ คนที่คอยอยู่ข้างๆ และสนับสนุนพวกเราทั้งสิบสองคนอยู่เสมอ...
อ่า
พอแสดงปิดท้ายรายการเสร็จเรียบร้อยก็พากันบอกลาแฟนคลับ
แล้วกลับเข้าไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนชุด
ระหว่างทางก็พบคนนู้นคนนี้เลยขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักของพวกเขาไปด้วยรอยยิ้ม
ทุกอย่างเกือบจะเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็นมากที่สุดคือการกลับไปซ้อมต่อที่บริษัท...
แต่ทว่าดันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดขึ้น เจ้าเมนโวคอลตัวปัญหาจู่ๆ
ก็ทรุดลงไปนั่งกับพื้นระหว่างทางที่จะออกไปยังโรงจอดรถ
พี่เมเนเจอร์รีบวิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง ในขณะที่เขา และเมมเบอร์คนอื่นๆ
ที่ยังเหลืออยู่อย่างลู่หาน ชานยอล และจุนมยอนฮยองก็ทำเช่นเดียวกัน
อย่าสงสัยว่าเมมเบอร์ที่เหลือไปไหน คำตอบคือขึ้นรถไปกันก่อนแล้วล่ะ...
“คยองซูเป็นอะไรมากมั้ย!”
“ฮยอง...ผม..ผมปวดท้อง...”
มือเล็กกุมท้องแน่น
ใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดที่ดูก็รู้ว่ามีไม่น้อย เสียงสั่นๆ
เอ่ยแผ่วเบาทำเอาพี่เมเนเจอร์หน้าเริ่มเสีย เมมเบอร์คนอื่นๆ เข้าไปประตอง
และไถ่ถามอาการด้วยความเป็นห่วง
ในขณะที่เขายืนขมวดคิ้วมองอีกคนด้วยความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในใจ... ทั้งกังวล
ทั้งเป็นห่วง
“ไปหาหมอมั้ย?” จุนมยอนฮยองถาม
“ผมอยากเข้าห้องน้ำ...”
ตากลมโตสบเข้ากับเขาพอดีเมื่อจบประโยค
ผงะไปเล็กน้อยด้วยความที่ยังไม่ได้ตั้งตัว
พลันสายตาของทุกคนพร้อมใจกันมองมาคล้ายกับจะรอดูว่าเมื่อไหร่เขาจะพาเจ้าเด็กนี่ไปเข้าห้องน้ำอย่างที่เจ้าตัวอ้อนวอนผ่านทางสายตา
ถ้าไม่พาไป...
เดี๋ยวก็หาว่าเขาใจร้ายอีก
“เดินไหวรึเปล่า...ลุกขึ้นสิ ฮยองจะพาไป”
แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าเขาอาจจะคิดผิดก็ได้ที่ทำอย่างนั้น...
ทันใดนั้นรอยยิ้มเล็กๆ ของคนเจ้าเล่ห์ถูกจุดขึ้นมาที่มุมปากโดยไม่ให้ใครสังเกตเห็น...
...ก็อย่างที่เขาเท้าความให้ฟังเมื่อกี้นั่นแหละ
พอพาคนตัวเล็กกว่ามาถึงห้อง อีกคนก็รีบเร่งเอาป้ายสีเหลืองที่มีอักษรว่า
ทำความสะอาด
ไว้หน้าห้องน้ำก่อนจะปิดล็อคกลอนแล้วหันมายิ้มให้เขาที่ยืนงงอยู่กับการกระทำเหล่านั้นก่อนจะต้องสะดุ้งตกใจเมื่ออีกฝ่ายพุ่งพรวดเข้ามาหาด้วยความรวดเร็ว
สองแขนเล็กทว่าแรงกลับมหาศาลตึงแขนเขาไว้กับผนังกำแพง
นัยน์ตาสีเข้มทอประกายแปลกประหลาดจ้องลึกเข้ามายังนัยน์ตาของเขา ความรู้สึกแปลกๆ
ค่อยๆ เกิดขึ้นทีละนิดโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว...
“ค..คยองซู นายคิดจะทำอะไร”
โว้ย...ทำไมเสียงต้องสั่นด้วยวะ! ไอ้ตาโตหัวเราะในลำคอเบาๆ ลิ้นแดงๆ
ของมันแลบออกมาเลียริมฝีปากอ้อยอิ่ง พลางสายตาของมันก็สบกับเขาโดยไม่ละไป ทำไมต้องส่งสายตาเชื้อเชิญมาให้ด้วยเนี่ย...
ให้ตายสิ!
“ผมรู้ว่าฮยองรู้ว่าผมจะทำอะไร...”
“...” เขาได้แต่เงียบ ไม่ปฏิเสธหรอกว่าไม่รู้ว่าต่อไปมันจะทำอะไร โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงขนาดนี้แล้ว
ถ้าไม่รู้สิก็แปลก!
“ผมน่ะ...ต้องอดทนมากแค่ไหนที่จะไม่เข้าไปกอดฮยองน่ะ รู้มั้ย?”
“ฉันจะไปรู้กับนายเหรอ...”
หน้าของเขาร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย แต่ด้วยความไม่ยอมใคร
ใบหน้าเรียวจึงเชิดขึ้น ริมฝีปากบางเบะด้วยความหมั่นไส้กับใบหน้าออดอ้อนนั่น ในขณะที่ริมฝีปากหนาของอีกคนกระตุกยิ้มอย่างนึกสนุก
“งั้นฮยองเตรียมรับความอดทนของผมไปให้หมดเลยนะครับ...”
“หมายความว่ายัง...อื้อ”
ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบลงบนริมฝีปากบางอย่างรุนแรง
ความอดทนที่มีเวลาอยู่ท่ามกลางคนอื่นๆ กำลังถูกปลดปล่อยออกไปทีละเล็กน้อย
เรียวลิ้นชื้นเริ่มต้นละเลียดเลียริมฝีปากอีกคนจากเบาๆ ก่อนค่อยๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ
มือเล็กกุมข้อมือคนหน้าหวานตึงไว้กับผนังแน่นเมื่อคนตัวบางพยายามดิ้นหนี
“อื้อ..อึก”
นัยน์ตาหวานเบิกกว้าง
เมื่อคนที่ตั้งหน้าตั้งตาจูบเขาอยู่แทรกขาเข้ามาระหว่างขาของเขา ต้นขาของอีกฝ่ายยกขึ้นดุนดันส่วนอ่อนไหวผ่านกางเกงผ้ายีนส์ ในขณะที่ริมฝีปากยังคงบดเบียด
และยัดเยียดลิ้นร้อนให้เขาอยู่อย่างนั้น
ความรู้สึกวาบหวามเริ่มเกิดขึ้นบริเวณท้องน้อย อ่า...เขากำลังหัวหมุน
รู้สึกราวกับโดนมนต์สะกด..
“อ้า..อื้ม”
คยองซูใช้มืออีกข้างเลิกเสื้อยืดของอีกคนขึ้นเผยให้เห็นผิวน้ำนมราวกับผิวเด็กของคนหน้าหวาน
นิ้วเล็กๆ นั่นเขี่ยเล่นบนยอดอกสีระเรื่อของอีกฝ่ายด้วยความอยากแกล้ง
เป็นผลส่งให้ร่างบางเผลออ้าปากคราง เขาจึงใช้จังหวะนี้สอดเรียวลิ้นเข้าไปลิ้มรสความหวานในโพรงปากของอีกคนอย่างไม่รู้จักเบื่อ
แบคฮยอนปรือตามองดวงตากลมโตที่จ้องอยู่ก่อนแล้วอย่างเหนื่อยใจ ไหนๆ
เขาก็แพ้เจ้าเด็กนี่แล้ว... ก็ให้มันทำตามใจชอบไปเลยก็แล้วกัน
คยองซูผงะเล็กน้อยก่อนจะปล่อยมือจากข้อมือบาง
เลื่อนตำแหน่งไปยังเอวเล็กๆ เมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีโอนอ่อนให้เขามากกว่าเดิม
ร่างกายทั้งสองเบียดชิดกันจนแทบไม่มีช่องว่างให้ลมผ่าน
เรียวลิ้นร้อนไล่ไปตามซี่ฟันแต่ละซี่
เก็บเกี่ยวความหอมหวานจากอีกคนอย่างไม่รู้จักพอ แขนเรียวคล้องเข้าที่คอของอีกฝ่าย
แบคฮยอนหันหน้าเอียงปรับองศาการจูบตาม ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันอย่างเมามันส์ก่อนจะผละออกในเวลาต่อมา
“ฮยอง...”
“อ...อะไรเล่า”
“ผม...ขอนะ”
แบคฮยอนไม่ตอบอะไร แต่กลับดึงอีกคนเข้ามาประกบจูบอีกครั้ง
โดยตัวเองเป็นฝ่ายคุมเกมส์ มือเรียวสวยคล้ายผู้หญิงเลื่อนลงไปปลดเข็มขัดของอีกคนออก
โดยที่คยองซูก็ให้ความร่วมมือช่วยปลดซิปกางเกงแบคฮยอนออกอย่างรู้งาน
น้ำสีใสไหลเลอะตามมุมปากเมื่อผละออกมาอีกครั้ง ใบหน้าหวานเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
ผมเผ้าเริ่มยุ่งเหยิงไปหมด เสื้อยืดสีเหลืองที่ถูกเลิ่กขึ้นทำให้เห็นยอดอดชูชันนั่นอย่างชัดเจน
ไม่รอช้าคยองซูตรงเข้าไปหยอกล้อกับยอดอกเล็กๆ นั่น ทั้งขบ
ทั้งเม้มจนแบคฮยอนอดครางออกมาไม่ได้
“อ้า..อ่า..” ฝ่ามือนุ่มแทรกผ่านกลุ่มผมสีแดงของคยองซูเพื่อระบายความเสียวซ่าน
แท่งเนื้ออุ่นใต้กางเกงชั้นในเริ่มสั่นระริกด้วยความต้องการอย่างถึงที่สุด
คยองซูไล่ลิ้นเลียเนื้อนุ่มไปเรื่อยๆ ไล้วนรอบหน้าท้องเนียนเรียบ ก่อนจะค่อยๆ
เอาแก่นกายของแบคฮยอนออกมา แบคฮยอนปิดหน้าแดงๆ
ของตัวเองเมื่อเห็นสายตาร้อนแรงที่อีกฝ่ายส่งมาให้ คยองซูกระตุกยิ้ม
เรียวลิ้นร้อนละเลียดส่วนปลายที่ปริ่มน้ำใสๆ เบาๆ
แบคฮยอนสะดุ้งเฮือกด้วยความไม่คุ้นชิน นัยน์ตาสวยปรือมองริมฝีปากหนาที่ทั้งเลีย
ทั้งดูด ทั้งขบส่วนปลายเขาด้วยความเขินอาย คยองซู...เป็นคนที่อันตรายจริงๆ
“อ้า..ฮึก..อื้อ” นิ้วเรียวจิกเข้ากับผนังเมื่อโพรงปากอุ่นๆ
ของคยองซูเร่งเร้าส่วนอ่อนไหวของเขา ในขณะที่มือนั้นก็ยังรูดรั้งแท่งเนื้อให้เขาไปด้วย
ใบหน้าหวานเหยเกเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะปลดปล่อย ความรู้สึกราวกับว่ากำลังจะบินไปบนอากาศ
ราวกับสวรรค์ และท้องฟ้าอยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อม...
“ค..คยองซู...อื้อ..เร็วหน่อย”
นึกอยากตบตัวเองให้เลือดกลบปากเป็นครั้งแรก
เสียงหวานกระเส่าร้องขอให้อีกคนเร่งทำร้ายร่างกายตัวเอง
ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของตัวเองอย่างนี้... นี่เขาบ้าไปแล้วใช่มั้ย? ทั้งๆ
ที่ความจริงแล้วความสุขสมที่คยองซูกำลังมอบให้เขามันช่างรู้สึกดีมากจริงๆ
ทั้งที่เคยผ่านปากผู้หญิงมาบ้างไม่มากนัก แต่บอกได้เลยว่าไม่มีใครทำได้เก่งเท่าคยองซูเลยสักคน...
“อึก...ฮ้า”
ไม่นานนัก
น้ำสีขุ่นขาวถูกปลดปล่อยออกมาเต็มโพรงปากของคยองซู เขากลืนมันลงไปอย่างไม่นึกรังเกียจ
แบคฮยอนหน้าซีดที่เห็นอีกคนทำแบบนั้น
สิ่งสกปรกของตัวเองใครอยากจะให้คนอื่นทำอย่างนั้นกันเล่า! คนบ้า! แบคฮยอนขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะพลักคยองซูที่กำลังเช็ดปากตัวเองอยู่ให้นั่งลงทับฝาชักโครก
คนตาโตแสดงสีหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งคุกเข่าหันหน้าเข้าหาเขา
พลางมือเรียวล้วงเข้าไปภายในกางเกงสีดำสนิท แท่งเนื้อร้อนพองคับมือบาง
แบคฮยอนแลบลิ้นเลียริมฝีปากที่เริ่มแห้งผากของตัวเองอย่างไม่มั่นใจก่อนเริ่มต้นไล้ลิ้นเลียแท่งเอ็นนั้นเรื่อยๆ
ฟันซี่เล็กขบส่วนปลายหัวแรงๆ หวังแกล้งเจ้าตัวแสบที่เขาเสียท่า
จนเจ้าตัวร้องโอยออกมา
“นี่ฮยองกะจะให้มันขาดเลยรึไง!?” คยองซูขมวดคิ้วโวย
แบคฮยอนไม่ตอบ
แต่กลับยิ้มกรุ่มกริ่มในใจ
คยองซูถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้คนหน้าหวานจัดการแท่งเนื้อของตัวเองไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งตอนนี้... เขาเริ่มที่จะทนไม่ไหว.... “อ้ะ..”
แบคฮยอนสะดุ้งเมื่อถูกจับพลิกมาคลุกเข่า แล้วหันหน้านอนราบเข้ากับฝาชักโครก
คนตาโตลงมือกับเนื้อนิ่มๆ เสียงดัง เพี๊ยะ
พลางหัวเราะในลำคอเมื่อถูกค้อนจากสายตาของอีกคน
“ฮยองรู้อะไรมั้ย...”
“ร..รู้อะไรล่ะวะ!”
แบคฮยอนย้อนเสียงสั่น คยองซูไม่ตอบพลางจับแท่งร้อนๆ
ของตัวเองจ่ออยู่ที่ช่องสีสวยของแบคฮยอน แล้วค่อยๆ ยัดส่วนหัวเข้าไป
แบคฮยอนเชิดหน้าขึ้นด้วยความเจ็บ น้ำสีใสล่วงหล่นตามโครงหน้าหวาน สัมผัสแปลกๆ
และการไม่เบิกทางก่อนของคยองซูทำให้เขารู้สึกทรมาน มันทั้งเจ็บ ทั้งแสบ
ราวกับว่ามันกำลังจะฉีกขาด...
“ฮึก..อ้า!”
คยองซูไม่ปล่อยให้แบคฮยอนได้หายเจ็บ
หรือแม้แต่ทำความคุ้นชิน แท่งเอ็นถูกส่งย้ำแรงเข้าไปภายในทีเดียว เพราะความปรารถนา
จนกระทั่งเลือดสีแดงซึมผ่านช่องทางนั้นออกมาจึงทำให้คยองซูได้สติ
ริมฝีปากหนาพรมจูบไปทั่วหลังขาวเนียน ไล้ขึ้นไปที่ไหล่บาง และลำคอระหงค์
ก่อนจะหยุดอยู่ที่พวงแก้มสีแดงระเรื่อ
“ผมขอโทษ...”
“ฮือ..”
แบคฮยอนหลับตาลงปล่อยให้น้ำตาไหลเปรอะเปื้อนใบหน้า
ก่อนต้องนิ่วหน้าเมื่อแก่นก่ายใหญ่คับพองที่อยู่ในตัวของเขาเริ่มขยับเป้นจังหวะเนิบนาบ
คยองซูขมวดคิ้ว เพราะขยับแก่นกายได้ยากลำบากเนื่องจากช่องทางที่คับแน่น จากสัมผัสแผ่วเบา
ก่อเกิดเป็นสัมผัสร้อนแรงที่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน
“อ้า..อื้อ..อ้ะ..อ้ะ..อ้า”
“อืม..”
จากความเจ็บปวดเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นความวาบหวามชวนให้หลงใหล
ริมฝีปากเรียวถูกบดขยี้ซ้ำๆ อย่างไม่รู้เบื่อ เช่นเดียวกับตุ่มไตชูชันที่ถูกทั้งขบ
ทั้งเลียโดยเด็กเอาแต่ใจบนร่างของเขา
ผิวขาวใสถูกแต่งแต้มไปด้วยสีกุหลาบชวนให้น่ามองอย่างแปลกประหลาด...
“อ้ะ..อ้ะ..อ้ะ..อ้า..คยอง..อ้ะ”
ไม่ไหวแล้ว...ร่างกายของแบคฮยอนกำลังทำให้คยองซูคลั่งแทบบ้า! ทั้งยังตอดรัดแท่งร้อนๆ
ของเขาแน่นจนแทบจะปล่อยออกมา แต่กายหอมหวายยั่วยวนชวนให้เขาต้องอดกลั้นความต้องการไว้เพื่อตักตวงความหวานละมุนจากร่างตรงหน้านี่เสียก่อน
“แบคฮยอน...”
“ฮือ...อื้อ..”
ครางอื้ออึงในลำคอพลางปรือตาช้อนขึ้นมองคนข้างบนอย่างย่ามใจ
คยองซูลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงคออย่างยากลำบาก นี่เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวเลยสินะว่าท่าทางเมื่อกี้มันยั่วอารมณ์กามเขามากแค่ไหน!?
แต่แล้วจู่ๆ ความคิดหนึ่งแล่นเข้าในสมอง
คนตาโตตั้งสติก่อนจะเอ่ยถามคำถามหนึ่งออกไป...ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมที่กำลังกระทำอยู่ชะงักไปด้วยเช่นกัน
“ที่ฮยองยอมผมง่ายๆ แบบนี้น่ะ...”
“...”
“เพราะอะไร...”
“...” แบคฮยอนเงียบ และหลุบตาลงต่ำ
ใบหน้านวลขาวร้อนผะผ่าว เหงื่อมากมายไหล่ชุ่มไปทั่วทั้งร่างกายของคนทั้งคู่
คยองซูยังคงจ้องอีกฝ่ายนิ่งไม่ละไปไหน
“ทั้งๆ ที่ฮยองจะผลักไสผมก็ได้
แต่ทำไมล่ะ...ทำไมฮยองไม่ทำ!”
“...”
แบคฮยอนกัดริมฝีปากครุ่นคิดอย่างหนัก แต่มันทำให้คยองซูเข้าใจผิดว่าอีกฝ่ายกำลังหงุดหงิดให้กับเขาที่หยุดบทรักไปเสียดื้อๆ
“แค่ประโยคเดียวฮยอง...ประโยคเดียวที่ผมต้องการคำตอบจากฮยอง”
“...ชอบ” เสียงแหบพร่าดังแผ่ว
ทำให้คยองซูไม่ได้ยิน
“ฮยองพูดว่าอะไรนะ” ถามย้ำอีกรอบ
“ก็บอกว่าชอบไง! อ้ะ!”
จบประโยคจากร่างใต้อาณัติ
คยองซูกระแทกกระทั้นช่องทางรักแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยแรงอารมณ์พร้อมๆ
กับหัวใจผองโตจนมันรู้สึกคับอกอย่างน่าประหลาด...แต่ถึงอย่างนั้น
ร่างกายเขาก็ยังคงทำตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง แท่งร้อนๆ ของคนตัวเล็กกว่าผลุบเข้าผลุบออกรวดเร็วในตัวของอีกคนจนแทบมองไม่ทัน
สัมผัสที่แนบชิดยิ่งกว่าเดิม
และความรู้สึกโล่งใจที่ได้สารภาพถูกปลดปล่อยออกไปแล้วแทบจะทำให้แบคฮยอนสำลักความเสียวซ่านที่คยองซูมอบให้เขา
แบคฮยอนแอ่นสะโพกขึ้นรับสัมผัสก่อนตวัดขารอบเอวอีกคน เพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว
คยองซูเกี่ยวขาอีกข้างของแบคฮยอนขึ้นพาดบ่าแล้วกดแท่งร้อนนั่นลงไปลึกจนสุด
ก่อนจะซอยถี่ไม่มียั้ง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า”
“อือ..”
เสียงครางหวานหูดังขึ้นเป็นจังหวะไพเราะดังอย่างต่อเนื่อง
เมื่อความเร็วในการฝั่งแท่งแข็งขืนนั่นเข้ามากดลึกโดนจุดกระสันเข้าอย่างจัง
แบคฮยอนบิดเร่าส่ายหน้าไปมาเป็นสัญญาณเตือนให้คยองซูรู้ได้ว่าพี่ชายหน้าหวานของเขาใกล้ถึงฝั่งฝันแล้ว
ก็ยิ่งรีบซอยถี่ๆ เข้าช่องทางคับแน่นนั้นยิ่งขึ้นไปอีก
“ผมน่ะ..อา..รักฮยองนะ..อึก”
เสียงทุ้มนุ่มติดหอบหน่อยๆ
เอ่ยขึ้นข้างกกหูในขณะที่ส่วนล่างยังทำงานได้ดีไม่มีตก
แบคฮยอนปรือตาขึ้นมองเด็กอายุน้อยกว่าแล้วแย้มยิ้มบางเบา “รักเหมือนกัน...”
“แบคอยอน...”
“อ๊ะ คยองซู...อื้ม!”
ริมฝีปากเรียวถูกบดขยี้อีกครั้งแต่หากครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยความรู้สึกใหม่ๆ
ที่ทำให้รสจูบในครั้งนี้หอมหวานละมุนปากยิ่งกว่าครั้งไหนๆ คยองซูถอนริมฝีปากออกมา
มือหนาจับขาเรียวแยกออกกว้างพลางกระแทกแก่นกายเข้าไปไม่ยั้ง ไม่มีออมแรง
หรือแม้แต่ลดความเร็วในการขยับ อีกนิดเดียวเท่านั้นที่ทุกสิ่งที่เขาอดทนมาจะได้รับการปลดปล่อยไปยังคนด้านล่าง
แบคฮยอนเชิดหน้าขึ้นด้วยความเสียวซ่าน
ความเร่าร้อนจากเซ็กส์ที่คยองซูมอบให้ ทำเอาเขาสำลักความสุขสมออกมาจนแทบจะ...ล้นปรี่
“อ๊ะ คยองซู อ๊ะ ม..ฮือ..ไม่ไหว...อ๊า”
“อึก...”
ร่างทั้งสองกระตุกเกร็งพร้อมกัน แบคฮยอนกระตุกเกร็งปล่อยธารน้ำสีขาวขุ่นออกมาเปรอะเปื้อนไปทั้งหน้าท้องของคยองซู
ในขณะที่อีกฝ่ายก็ปลดปล่อยความอดทนที่มีทั้งหมดเอาไว้ภายในตัวของแบคฮยอน...ความสุขสมและความโล่งสบายบริเวณท้องน้อยเกิดขึ้นอีกครั้ง
เสียงหอบใจหายใจดังระงมขึ้นอย่างแผ่วเบา
สองสายตาเผลอสบกันโดยบังเอิญก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มที่ริมฝีปากอีกครั้ง
ผิวชื้นแฉะด้วยเหงื่อถูกลิ้นร้อนๆ ไล่เลีย
ริมฝีปากขบเม้มรอยกุหลาบไว้ทั่วทุกตารางนิ้ว ในขณะเดียวกันแก่นกายอีกคนที่ยังคงคาอยู่ในช่องทางรักก็เริ่มคับพองขึ้นอีกครั้ง...เป็นสัญญาณบอกแบคฮยอนได้อย่างดีเลยว่า...
บทรักของพวกเขา นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้น...
อย่าลืมกลับไปเม้นท์ที่บทความนะฮับ . .)